เปลี่ยนอาชีพใหม่ทำอย่างไรให้เวิร์กกว่าเดิม

เปลี่ยนอาชีพใหม่ทำอย่างไรให้เวิร์กกว่าเดิม

การเปลี่ยนอาชีพมักจะหมายถึงการเริ่มนับหนึ่งใหม่ ต้องลงทุนทั้งเวลาและเงินทุน ในช่วงชีวิตของคนเราอาจเปลี่ยนงานหลายหน แต่บางคนไม่เคยย้ายงานเลย แต่ชีวิตคนเราไม่แน่นอนเมื่อเวลานั้นมาถึงสิ่งสำคัญที่ควรรู้คือการตัดสินใจนั้นถูกต้องหรือไม่ การหางานใหม่ไม่ใช่เรื่องยากแต่การเปลี่ยนสายอาชีพนั้นแสดงว่าเราไม่มีความพอใจงานที่ทำอยู่ แต่กำลังมองหาสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตมากกว่าเดิม หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าอาชีพใดเหมาะสม ลองประเมินตนเองโดยเขียนรายการอาชีพต่าง ๆ ดูรายละเอียดของแต่ละงาน มองแนวโน้มงาน โอกาสและรายได้

จากนั้นให้จำกัดรายการอาชีพให้แคบลง โดยพิจารณาความสนใจ ทักษะ และบุคลิกภาพของตนเอง แล้วตัดอาชีพที่เป็นไปไม่ได้ออกไปก่อน เช่น ตัดทำงานประจำและงานเต็มเวลา ตัดงานที่ต้องมีการศึกษาระดับปริญญาขั้นสูง หรือตัดงานที่มีรายได้น้อยออกไป เมื่อเหลือรายการไม่มากแล้ว เริ่มสอบถามคนที่ทำอาชีพนั้นและมีประสบการณ์รู้ข้อมูลเชิงลึก รวบรวมข้อมูลมากขึ้นและขอคำแนะนำว่าคุณสมบัติและเป้าหมายของคุณเหมาะสมกับอาชีพนั้นหรือไม่

การวางแผนก่อนจะเริ่มทำงาน

เมื่อเลือกอาชีพที่คาดว่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้แล้ว เริ่มวางแผนอาชีพและมองหางานที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนอาชีพอาจจะเริ่มทำงานทันทีไม่ได้ อาจต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะที่จำเป็นเพื่อก้าวสู่อาชีพใหม่ ทำงานเก่าไม่มีความสุขทำผลงานออกมาไม่ดี แต่พอเริ่มงานใหม่ยังมีประสบการณ์ไม่มาก จะหวังตำแหน่งหน้าที่ระดับสูง หรือหวังผลกำไรตอบแทนกลับคืนมาเร็ว คงเป็นไปได้ยาก ในช่วงเปลี่ยนถ่ายนี้เองต้องมีความอดทนและขยันให้มาก เจอปัญหาในที่ใหม่อาจจะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ยังมีข้อดีตรงที่ไม่ลำบากใจเหมือนทำงานเดิม

ถ้ามองอีกมุมหนึ่งการเปลี่ยนอาชีพใหม่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่ตกงานหรือบริษัทปิดตัวลง ควรเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ เพราะงานเดิมหรือตำแหน่งเดิมอาจหายากแล้ว อาจเป็นโชคดีหรือจังหวะชีวิตที่จะได้เปลี่ยนแปลงตัวเองและขวนขวายหาอาชีพที่น่าพอใจมากกว่า หากคุณอายุมากอยู่ในวัย 50 ปีซึ่งใกล้เกษียณแล้ว หากจะต้องเปลี่ยนงานลองคิดวางแผนว่าจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไรและยังมีเวลาในอาชีพการงานอีกกี่ปี แล้วจึงเริ่มสำรวจตัวเลือกอื่นในชีวิตต่อไปการวางแผนก่อนจะเริ่มทำงาน

การเปลี่ยนอาชีพเมื่ออายุมากมีข้อดีตรงที่คุณมีประสบการณ์ชีวิตพอสมควรและฝ่าฟันปัญหามากมายมาแล้ว หากงานเดิมไม่ทำให้มีความสุขความพอใจอีกต่อไป การเปลี่ยนอาชีพใหม่สำหรับคนสูงวัยอาจส่งผลดีต่อสุขภาพและชีวิต ความสัมพันธ์กับครอบครัวก็ดีขึ้น ข้อเสียคือการเปลี่ยนงานเมื่ออายุมากอาจพบกับแนวความคิดอคติว่าคนสูงวัยทำงานช้าและไม่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ต้องพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข ที่จริงแล้วแรงงานสูงอายุกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดงานที่เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญ เช่น วิศวกร พยาบาล นักบัญชี นักแปล ล่ามภาษา ช่างภาพ ล้วนมีทักษะที่ดีตามสายอาชีพที่ทำมา ส่วนใหญ่จะมีการจ้างงานแบบฟรีแลนซ์ทำให้ปรับเปลี่ยนตารางเวลาทำงานอย่างยืดหยุ่น มีอิสระอย่างที่หลายคนใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต