โมดริช “เผายับ” หลัง โด้-เมสซี่ หายงานบัลลงดอร์

โมดริช “เผายับ” หลัง โด้-เมสซี่ หายงานบัลลงดอร์

ลูก้า โมดริช กองกลางรองแชมป์โลก


ลูก้า โมดริช กองกลางรองแชมป์โลกของ เรอัล มาดริด วิภาควิจารณ์การไม่มาร่วมงานประกาศรางวัลบัลลงดอร์ปีนี้ของ คริสต่อว่าอาโน่ โรนัลโด้ ปีกซุปตาร์ยูเวนเหม็นตุส และ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงจากนอกโลกที่บาร์เซโลน่า

ดาวเตะวัย 33 ปีครอบครองรางวัลบัลลงดอร์ทุกปี 2018 ไปถือครอง แม้กระนั้น โรนัลโด้ กับ เมสซี่ ไม่ได้ไปร่วมงานประกาศรางวัลที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ปัจจุบันนี้ โมดริช ให้สัมภาษณ์กับ Jutarnji หนังสือพิมพ์ในโครเอเชียเริ่มจากปัญหาว่ารู้สึกอย่างไรที่ โรนัลโด้ กับ เมสซี่ ไม่มาร่วมงานรวมทั้งรู้สึกยังไงกับเสียงวิภาควิจารณ์จากเหล่าแฟนคลับทั้งคู่

“ผมบอกไม่ได้หรอกเพราะเหตุใดบางคนถึงไม่มางาน ก็จำเป็นต้องตามใจพวกเขา แม้กระนั้นสำหรับผมการไม่มาร่วมงานมันขาดเหตุผลนะ สงสัยพวกเขาถูกอกถูกใจมาตอนได้รางวัลล่ะมั้ง” โมดริชตอบ

“ความประพฤติอย่างงี้ไม่แฟร์ต่อนักเตะคนอื่น, แฟนๆ, เกมลูกหนัง และต่อบรรดาคนที่โหวตให้พวกเขาเป็นผู้ชนะมาตลอด 10 ปีด้านหลัง แม้กระนั้นผมว่าใครๆก็กระทำตามหัวใจตัวเองล่ะมั้ง”

อีกปัญหาเป็นทั้งคู่อาจไม่ชอบที่ โมดริช จบการมัดขาดรางวัลไหมรวมถึงให้เกร็ดเพราะเหตุว่า เมสซี่ เป็นอีกคนหนึ่งที่โหวตมิดฟิลด์โครแอตเป็นผู้ชนะ

โมดริช ตอบว่า “ฟังนะ สำหรับผมเรื่องทั้งมวลมันง่ายมาก เมสซี่กับโรนัลโด้ทั้งคู่เป็นการกำเนิดที่ครอบครองโลกลูกหนังมาตลอด 10 ปีด้านหลัง เรื่องฝีเท้าทั้งคู่อยู่เหนือผู้อื่น”

“ถึงแม้นี่มันรางวัลสำหรับแต่ละฤดู นักเตะโดยมาก, เหล่าตำนาน, ผู้อ่านข่าว หรือแฟนๆเขาโหวตผู้ชนะคนเดียวกัน งี้หมายความว่าพวกเขาคิดผิดกันหมดถ้างั้นสิ”

“ถ้าจะให้รางวัลจากแค่เพียงฝีเท้าถ้าอย่างงั้นก็เลิกโหวตแล้วเอาทั้งปวงให้เมสซี่กับโรนัลโด้ไปเถอะ”

ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยโดยบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มจะถูกพิมพ์ด้านในวันนี้

คำทาบทามของแฟนบอล “ดาวทอง” หลังคว้าแชมป์ ระอุ!!โซเชียล

คำทาบทามของแฟนบอล “ดาวทอง” หลังคว้าแชมป์ ระอุ!!โซเชียล

นี่เป็นข้อคิดเห็นจากแฟนบอลนักฟุตบอลดาวทองคำเวียดนามข้างหลังสามารถผงาดได้แชมป์อาเซียน คัพ 2018 หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ2018 มาครอบครองได้เสร็จ เป็นแชมป์ยุคที่ 2 ภายหลังจากทำเป็นหนแรกในปี 2008ของนักฟุตบอลกลุ่มชาติเวียดนาม

Tran Son

ฉันมองเห็นแฟนบอลมาเลเซีย บางบุคคลพูดว่าห้องนักกีฬาในสนาม มี ดินห์ เสมือนห้องสุขา

ใช่! สำหรับพวกท่าน มันบางทีอาจเป็นห้องสุขา แม้กระนั้นสำหรับผม แล้วก็ชาวเวียดนาม มันเป็นสถานที่ที่กลุ่มชาติเวียดนามฉายแสง และก็ทำให้พวกท่านแพ้ในเกมนัดหมายนี้ ชั้น 164 แล้วก็ ชั้น 100 มันห่างกันเกินความจำเป็น พวกเราไม่ใช่กลุ่มระดับเดียวกัน!

ถึงพวกท่านจะร่ำรวย แม้กระนั้นคุณก็มิได้ถ้วยแชมป์ ถึงพวกเราจะยากไร้แต่ว่าพวกเราก็ได้แชมป์ โชคดีมาเลเซีย

Loi Lee

เวียดนาม เป็นแชมป์

แน่ๆ! พวกเราเป็นเจ้าอาเซียนรายใหม่

Nicky Seo Hyun

ขอแสดงความยินดีกับเวียดนาม ผู้เล่นชุดนี้เป็นยุคทองของพวกเรา พวกเราเป็นแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 จำเป็นต้องขอสรรเสริญ พาร์ค ฮัง-โซ ผู้ฝึกสอนชาวประเทศเกาหลีใต้

Ha Le Nhi Tran

แฟนบอลทุกครั้งมต้องทราบไว้ “เวียดนาม เป็นเจ้าอาเซียนชาติใหม่” พวกเราเป็นแชมป์นะ เด็กๆ

Thanh Toan

พวกเราจำต้องขอแสดงความเศร้าใจกับทุกชาติในอาเซียน ที่เวียดนาม ได้แชมป์บอล AFF Cup ในปี 2018 และก็พวกท่านจำต้องคอยที่จะได้โอกาสนี้ไปอีก 2 ปี

ขออภัย กลุ่มชาติไทย, อินโดนีเซีย และก็ภรรยานมา ด้วยเหตุว่าพวกท่านเหมาะสมที่จะไปทำทีมมวยมากยิ่งกว่า

Vo Thanh Thien

มาเลเซีย มาเล่นด้วยสไตล์เปรอะเปื้อน แต่ว่าท้ายที่สุด เวียดนาม ก็สามารถครองแชมป์ได้

Bao Mat Hop Thu

ไม่เคยรู้จะบอกเช่นไรดี! ตกลงว่าแทบเที่ยงคืน เราก็ยังสังสรรค์แชมป์กันอยู่ และก็คาดว่าจะช้านานตลอดคืน

Chita Tida

ผู้เล่นชุดนี้เป็นอะไรที่อัศจรรย์มากมาย, ท้ายที่สุดพวกเราเป็นแชมป์ นี่เป็นความภูมิใจของชาวเวียดนาม

Nguyen Thanh Hung

เจ้าอาเซียนรายใหม่ เกิดขึ้นแล้ว!

Erick Stark

จากรองแชมป์ บอล ชิงชนะเลิศทวีปเอเชีย ยู-23, ชั้นที่ 4 สำหรับเพื่อการชิงชัยเอเชียนเกมส์ และก็ แชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 นับว่าเป็นปีที่เพอร์เฟ็คของเวียดนาม

หวังว่าปี 2019 เวียดนาม จะสร้างผลงานเจริญสำหรับในการชิงชัยเอเชียน คัพ 2019 สู้ถัดไป! เวียดนาม

Vu Minh Hieu

บอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 นับว่าเป็นจุดเริ่มแรกสำหรับการสร้างประวัติศาสตร์ของบอลเวียดนาม ด้วยผู้เล่นที่มีอนาคต แล้วก็มีความรู้เยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Nguyen Cong

พวกเรามีกุนซือที่สุดยอด แล้วก็มีผู้เล่นแบบใหม่ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์จนกระทั่งจบการแข่งขันชิงชัย

ทุกชาติที่ลงแข่งขันเป็นกลุ่มที่ดี แต่ว่าจำเป็นต้องขออภัยเป็นอย่างมาก ที่เราดีมากกว่า เวียดนาม เป็นแชมป์

ชีวิตที่พลิกผันของเจ้าหนูเมสซี่ถุงพาสติก มูร์ตาซา อาห์มาดี

ชีวิตที่พลิกผันของเจ้าหนูเมสซี่ถุงพาสติก มูร์ตาซา อาห์มาดี

น่าเวทนาที่เจ้าหนู มูร์ตาซา ไม่ว่างแม้กระทั้งจะถือเสื้อพร้อมลายเซ็นที่ ลิโอเนล เมสซี มอบไว้ให้ข้างหลังจะต้องย้ายถิ่นอย่างเร่งด่วนไปยังคาบูล เมืองหลวงของประเทศและไม่ทราบว่าจะได้กลับไปเมื่อไร

2 ปีนับตั้งแต่มูร์ตาซาแปลงเป็นคนมีชื่อเสียงและก็ได้เจอกับฮีโรตัวจริงเหมือนกับนิยายถึงวันนี้ชีวิตของเจ้าหนูคนนี้ก็กลับเปลี่ยนกันไปไม่น้อย

เรื่องเริ่มขึ้นจากถุงพลาสติก

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 Fanatik สื่อของประเทศตุรกีได้เปิดเผยภาพเด็กน้อยคนหนึ่งใส่เสื้อที่ทำด้วยพลาสติก โดยมีชื่อของเมสซี นักฟุตบอลชื่อก้องโลกและก็เลขลำดับ 10 เขียนไว้ที่กึ่งกลางข้างหลังด้วยปากกาเมจิก ความน่ารักน่าเอ็นดูของหนูน้อย ทำให้ข้างหลังภาพนี้แพร่ออกไปมันได้เปลี่ยนเป็นไวรัลที่ทุกคนเอ๋ยถึง รวมทั้งเป็นจุดกำเนิดสำหรับในการตามหาเด็กที่อยู่ในรูปภาพนี้

@messi10stats แอคเคาท์ทวิตเตอร์ที่เป็นแฟนๆของเมสซี เป็นตั้วโผสำหรับในการตามหาหนูน้อยคนที่ใครๆก็รู้จัก โดยในตอนแรกต่างหลงผิดว่าเป็นเด็กชาวอิรัก ก่อนที่จะในที่สุดจะรู้ดีว่าเด็กผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า มูร์ตาซา อาห์มาดี

โมฮัมหมัด อาริฟ อาห์มาดี บิดาของเขาได้เผยต้นเหตุของเสื้อพลาสติกกับ CNN ว่า ช่วงดึกคืนวันหนึ่ง อยู่ๆมูร์ตาชา ก็ตื่นมาร้องไห้กล่าวว่าต้องการไปพบเมสซี ซึ่งมันเกือบจะไม่มีทางเป็นไปได้กับพวกเขาที่อยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญรุ่งเรืองแบบนี้

“ผมบอกเขาว่าพวกเราอยู่ในหมู่บ้านที่แร้นแค้นรวมทั้งทุรกันดารมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะหาเสื้อให้เขาได้” อาริฟกล่าวกับ CNN

“เขาร้องไห้จะเอาเสื้อถัดไปอีกเป็นวันๆจนถึงพี่ชายของเขา ฮามายอน ทำเสื้อขึ้นมาจากถุงก๊อบแก๊บ เขาดีใจมาก ภายหลังใส่เสื้อถุงก๊อบแก๊บนั้น เขาก็หยุดร้องในทันที”

ลีโอเนล เมสซีเป็นไอดอล

การเลี้ยงบอลที่ชำนาญเท้า การผ่านบอลที่แม่น รวมทั้งการทำประตูที่เฉียบคมอีกทั้งซ้ายรวมทั้งขวา ทำให้ เมสซี แปลงเป็นขวัญใจของเด็กทั้งโลก เหมือนกับ มูร์ตาซา

เจ้าหนูถุงก๊อบแก๊บลุ่มหลงดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์มากมาย เหมือนกับการเล่นบอล เขาชอบเตะบอลกับพี่ชายอยู่ตลอด แต่ว่าโชคร้ายที่ประเทศของเขาจำต้องอยู่ในภาวะการเกิดสงครามกลางเมือง ทำให้มูร์ตาซา ไม่มีพื้นที่ที่จะวาดลวดลายเท่าไรนัก

“ผมรักเมสซี เขาเล่นบอลเก่งและก็ผมก็ถูกใจเสื้อที่พี่ชายผมทำให้มากมายๆ” มูร์ตาซากล่าวกับ AFP

“แม้กระนั้นพวกเราไม่สามารถที่จะเล่นบอลในสนามเด็กเล่นใกล้บ้านได้เลย แล้วก็บอลลูกเดียวที่ผมมีก็รั่วไปเสียแล้ว”

“โตขึ้น ผมต้องการจะเป็นราวกับเมสซี”

ภายหลังผู้คนศึกษาและทำการค้นพบว่ามูร์ตาซาเป็นผู้ใด เรื่องราวของเขาก็เปลี่ยนเป็นที่รู้จักไปทั้งโลก มีสื่อล้นหลามพากันมาทำข่าวสาร ก่อนที่จะเรื่องราวของเขาจะมีผลให้ ชมรมบอลอัฟกานิสถาน กองทุนฉุกเฉินสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ รวมทั้ง เมสซี ร่วมมือกันมอบเสื้อกลุ่มชาติประเทศอาร์เจนตินา ปักชื่อดาวดังบาร์เซโลนาพร้อมลายเซ็น มอบเป็นของขวัญให้เจ้าตัวในก.พ. 2016

“ผมรักเมสซีแล้วก็เสื้อของผมก็กล่าวว่าเมสซีรักผม” มูร์ตาซากล่าวข้างหลังได้รับเสื้อ

มูร์ตาซา อาห์มาดี

ความสบายของมูร์ตาซาล้นออกมาจากสายตาของเขาในเวลาที่ได้รับเสื้อ เด็กน้อยจากต่างจังหวัดที่ห่างไกลได้โอกาสได้เสื้อพร้อมลายเซ็นจากสตาร์ชื่อก้องโลก เกิดเรื่องที่เกินฝัน แต่เขาก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่มุ่งหมายตลอดมา โน่นเป็นการได้เจอกับ นักฟุตบอลผู้ครอบครองบัลลงดอร์ 5 ยุคตัวเป็นๆ

ช่วงเวลาค่ำคืนที่ไม่มีทางลืม

13 ธ.ค. 2016 ภาพของเด็กน้อยใส่ชุดบาร์เซโลนาอยู่ในอ้อมแขนของเมสซี ด้วยทีท่าอายได้ถูกแพร่ไปสู่สายตาคนทั่วโลก มูร์ซาตา ได้เจอกับไอดอลของเขาจนได้

มูร์ตาซา อาห์มาดี
มูร์ตาซา อาห์มาดี กับ ลีโอเนล เมสซี่

ตรงเวลาแทบปีนับตั้งแต่เรื่องราวของเขามีชื่อเสียง ด้วยความร่วมแรงร่วมมือจากหลายข้าง ความฝันของหนูน้อยถุงก๊อบแก๊บก็เป็นจริง เมื่อเขาได้รับเชื้อเชิญจากเมสซี มาดูเกมกระชับมิตรระหว่าง บาร์เซโลนา กับ อัล อาห์ลี ที่จัดขึ้นที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์

ก่อนเกมจะเริ่มหนูน้อยเข้ากอดกับเมสซีอย่างสนิทแน่นรวมทั้งดูสตาร์คนอาร์เจนตินาแบบไม่วางตาราวกลัวว่าไอดอลของเขาจะหายไปไหน นอกเหนือจากนั้นเขายังได้โอกาสได้เป็นมาสค็อตของกลุ่มบาร์เซโลนาจับมือเมสซีเข้าสนาม และก็นำบอลไปตั้งที่วงกลมกึ่งกลางสนามอีกด้วย

ข้างหลังเสร็จภารกิจ แทนที่จะเดินออกมาจากสนามไป เขากลับวิ่งไปโอบกอดเมสซีอีกรอบ แปลงเป็นภาพน่ารักน่าเอ็นดูที่เรียกเสียงตบมือไปทั่วสนาม ก่อนที่จะสุดท้ายผู้ตัดสินจะเป็นคนอุ้มหนูน้อยออกไป แต่ว่าในเวลาเดียวกันเจ้าตัวก็มองดูไอดอลของเขาอย่างไม่ละสายตา เปลี่ยนเป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจ

เรื่องราวของหนูน้อยมูร์ตาซา เสมือนจะจบลงอย่างแฮปปี้ เอ็นดิง เมื่อเขาได้เจอกับฮีโรตัวเป็นๆอย่างใกล้ชิด แต่ทว่าชีวิตต่อไปกลับต่างออกไป

ชีวิตที่ถดถอยอย่างเต็มที่

ถ้าหากมองดูด้วยสายตาบุคคลภายนอก ชีวิตของมูร์ตาซา เกือบจะไม่ได้ต่างอะไรจากในนิยาย เด็กน้อยจากประเทศการสู้รบที่ดังขึ้นในเวลาเลวข้ามคืน จนได้เจอกับซูเปอร์สตาร์ชื่อก้องโลกที่เป็นไอดอลของตนเอง – แม้กระนั้นสำหรับครอบครัวกลับไม่ใช่

ข้างหลังเรื่องราวของเจ้าหนูถุงก๊อบแก๊บมีชื่อเสียงไปทั้งโลก เขาได้กลายเป็นเป้าของอีกทั้ง กรุ๊ปมาเฟียแคว้นแล้วก็องค์การก่อการร้าย ครอบครัวอาห์มาดีจำเป็นต้องพบกับการข่มขู่ทำให้รู้สึกกลัวมาหลายแบบ

“ไม่กี่วันก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากมาเฟียแคว้นเขารู้สึกว่าตั้งแต่พวกเราได้เสื้อจากเมสซี พวกเราคงจะได้เงินมาด้วยพวกเขาอยากได้ส่วนแบ่งนั้น” อาริฟกล่าวกับ BBC

ชีวิตที่จำเป็นต้องอกสั่นขวัญแขวน ระแวงผู้คนเปลี่ยนเป็นสิ่งบันทอนครอบครัวของอาห์มาดีให้ห่วยลง จนถึงทำให้อาริฟ ผู้นำครอบครัวตกลงใจย้ายถิ่นครอบครัวไปยังที่ปลอดภัยกว่าที่กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ก่อนที่จะย้ายไปอยู่เมืองเควตตาต่อจากนั้น

“ผมจะต้องขายทรัพย์สมบัติทุกๆอย่างที่มีรวมทั้งพาครอบครัวออกมาจากอัฟกานิสถานเพื่อรักษาชีวิตลูกชายและก็ชีวิตสมาชิกในครอบครัวของพวกเรา” อาริฟกล่าวกับ ITV

“ชีวิตของพวกเรากลายเป็นตรากตรำไปเลย”

มูร์ตาซา อาห์มาดี

อย่างไรก็แล้วแต่ ประเทศปากีสถาน ก็เป็นเพียงแค่บ้านพักอิงชั่วครั้งชั่วคราวของครอบครัวอาห์มาดี พวกเขาไม่มีอนาคตตรงนี้ ข้างหลังเงินหมดพวกเขาก็เลยตกลงใจย้ายกลับมาที่เมืองกาซนี รัฐอิสลามอัฟกานิสถานอีกที

หากแม้เวลาจะผ่านไปแต่ว่าเหตุการณ์ของการรบในประเทศก็ยังมิได้ดียิ่งขึ้น สลับกันมันยิ่งไม่ดีลงไปเมื่อ มูร์ตาซา แปลงเป็นจุดหมายหัวของกรุ๊ปตาลีบัน กรุ๊ปผู้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงสุดชั่วร้าย จนกระทั่งทำให้พวกเขาจำเป็นต้องย้ายถิ่นอย่างเร่งด่วน ไม่ว่างแม้ว่าจะเก็บสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงเสื้อที่เมสซี มอบให้กับ มูร์ตาซา

“ฉันไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดตั้งแต่เขาดังตาลีบันถึงอยากได้ตัวเขาพวกเขากล่าวว่าถ้าหากจับกุมเขาได้ จะหั่นเป็นชิ้นๆ” ชาฟิเกาะห์ อาห์มาดีแม่ของมูร์ตาซากล่าวกับ itv

“พวกเราไม่สามารถที่จะเอาอะไรมาด้วยได้เลยพวกเราจำต้องทิ้งทั้งหมดทุกอย่างไว้เพื่อรักษาชีวิต” ฮามายอนผู้เป็นพี่ชายเสริม

“ฉันไม่อยากที่จะให้มูร์ตาซาเป็นคนมีชื่อเสียงแบบงี้เลยมันก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ให้กับพวกเรารวมทั้งเขา” ชาฟิเกาะห์ ตบท้าย