คนไทยลดหย่อนภาษีได้ด้วยวิธีใดบ้าง

คนไทยลดหย่อนภาษีได้ด้วยวิธีใดบ้าง

คนไทยทุกคนที่มีรายได้ต้องเสียภาษีโดยการยื่นเอกสารที่มีแบบฟอร์มชัดเจนถึงการรับเงินเข้าจากนายจ้างหรือองค์กรที่ทำงานอยู่ประจำ อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลก็กำหนดหลักเกณฑ์เป็นลำดับขั้นในการจ่ายภาษี ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์บางอย่างในการลดหย่อนภาษีได้ เรามาดูกันว่าจะใช้อะไรในการลดหย่อนภาษีได้บ้าง

1.ทำประกันสังคม
คนที่ทำงานบริษัทจะสังเกตได้ว่าในสลิปเงินเดือนจะมีส่วนที่แจ้งว่ามีการหักเงินประกันสังคมประมาณ 5% ซึ่งเอกสารนี้จะต้องเก็บเอาไว้เป็นอย่างดีเพื่อนำไปยื่นลดหย่อนภาษี กรณีที่ไม่ได้ทำงานในองค์กร เช่น เป็นฟรีแลนซ์รับงานเป็นรายชิ้นหรือบุคคลทั่วไป ก็สามารถทำประกันสังคมแบบส่งเงินด้วยตัวเองในมาตรา 33 และ 39 แล้วนำเอกสารการจ่ายไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

2.ทำประกันชีวิต
ประกันชีวิตเป็นตัวคุ้มครองความเสี่ยง เพื่อผู้รับสิทธิ์จากกรมธรรม์หลังการเสียชีวิตของเราลำบากด้านเงินทอง ขณะเดียวกันในตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็สามารถนำเอกสารที่จ่ายเบี้ยประกันชีวิตไปลดหย่อนภาษีได้ แต่จำกัดวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท และมีเงื่อนไขว่าอายุกรมธรรม์ต้องคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 10 ปี

3.ทำประกันสุขภาพ
หากเราต้องการแหล่งเงินที่สำรองค่าใช้จ่ายเวลาที่เกิดการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน เราจะได้ไม่ต้องนำเงินเก็บออมมาจ่าย การทำประกันสุขภาพจะตอบโจทย์นี้โดยสามารถเลือกได้ว่าขอจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี ตัดบัตรเครดิตหรือตัดบัญชีธนาคาร และสามารถนำหลักฐานการหักเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงภายในวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท

4.การกู้ซื้อบ้าน
ในวัยทำงาน นิยมกู้ซื้อบ้านเพื่อเตรียมสร้างครอบครัวที่มั่นคง ซึ่งต้องเก็บหลักฐานการจ่ายเงินแก่ธนาคารไว้ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี โดยสามารถช่วยได้คืนภาษีตามที่จ่ายส่วนดอกเบี้ยไป ในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท

5.ลงทุน LTF RMF
การลงทุนระยะยาวในรูปแบบ LTF RMF เป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่นิยมในวัยใกล้เกษียณ โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีเท่ากับที่ลงทุนไป แต่จะไม่เกิน 15% ของรายได้ตลอดปี และมีเพดานสูงสุดที่ไม่เกิน 500,000 บาทด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนลงทุน LTF RMF ควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อน

6.การบริจาคเข้ามูลนิธิต่าง ๆ
รัฐบาลประกาศรับรองการบริจาคเข้ามูลนิธิหรือองค์กรการกุศลหลายแห่ง ว่าผู้บริจาคสามารถนำหลักฐานการจ่ายเงิน มาลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคไปจริง แต่ต้องไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินรายได้ตลอดปีหลังหักค่าใช้จ่าย ซึ่งแนะนำให้สอบถามรายละเอียดการขอเอกสารลดหย่อนภาษีจากมูลนิธิต่าง ๆ โดยตรง

การลดหย่อนภาษี เป็นสิทธิ์ที่เราทุกคนควรเรียนรู้ เพื่อการบริหารจัดการการเงินอย่างเหมาะสม ที่สำคัญ คือ ต้องรู้จักวางแผนใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เราใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าและเหลือเงินเก็บออมได้มากขึ้น